Customer Segmentation คือ? วิธีแบ่งส่วนตลาดเข้าถึงลูกค้าอย่างแม่นยำ

แน่นอนว่าในการทำธุรกิจ “ลูกค้า” คือหัวใจสำคัญที่ทำให้องค์กรของคุณเดินหน้าต่อไปได้ การเข้าถึงพฤติกรรมลูกค้าและตอบได้ว่าลูกค้าของคุณคือใคร จะช่วยให้ธุรกิจของคุณนำหน้าคู่แข่งและประสบความสำเร็จได้นั่นเอง ซึ่ง Customer Segmentation เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้คุณรู้จักลูกค้า และสามารถวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายเพื่อทำแคมเปญทางการตลาดได้อย่างมีคุณภาพ บทความนี้ Data Wow จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า Customer segment หมายถึงอะไร มีกระบวนการอย่างไร และข้อดีของการทำ Customer Segmentation มีอะไรบ้าง

เจาะลึก Customer Segmentation คืออะไร

Customer Segmentation คือ การแบ่งกลุ่มลูกค้าที่จะช่วยให้รู้ว่าลูกค้าของคุณคือใคร สามารถทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และนำมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อผลิตสินค้า หรือบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

Customer Segmentation มีกี่ประเภท

โดยปกติแล้วเราสามารถจัดกลุ่มลูกค้าเป็น 4 ประเภท ดังนี้

1.แบ่งตามข้อมูลสถิติประชากร (Demographic)

การแบ่งตามข้อมูลสถิติประชากร เป็นการจำแนกกลุ่มลูกค้าออกตามเพศ อายุ การศึกษา รายได้ สัญชาติ สถานะทางสังคม เป็นต้น ข้อดีของการแบ่งตามสถิติ คือ ง่ายต่อการกำหนดและปรับปรุงการแบ่งกลุ่มเป้าหมาย แต่มีข้อเสียในการปรับปรุงแผนการตลาด เพราะมีอ้างอิงแค่เพียงสถิติประชากร ตัวธุรกิจที่ใช้การแบ่งตามสถิติประชากร เช่น ธุรกิจเสื้อผ้า จะมีหน้าเว็บไซต์ที่แยกประเภทของเสื้อผ้าผู้หญิงและเสื้อผ้าผู้ชาย แต่ละหน้าก็จะมีรูปของชุดและเพศนั้น ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้านั่นเอง

2.แบ่งตามข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ (Geographic)

การแบ่งตามข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ เป็นการจำแนกกลุ่มลูกค้าออกตามที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ที่ตั้ง หรือภูมิอากาศ หากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่อาจมองภาพรวมทั้งประเทศ หรือทวีป ช่วยให้วางแคมเปญการตลาดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวธุรกิจที่ใช้การแบ่งตามข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ เช่น ธุรกิจร้านชานมไข่มุก ที่มีหลากหลายสาขา เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแต่ละพื้นที่

3.แบ่งตามข้อมูลด้านจิตวิทยา (Psychological)

การแบ่งตามข้อมูลด้านจิตวิทยา เป็นการจำแนกกลุ่มลูกค้าตามหลักจิตวิทยา เช่น ไลฟ์สไตล์ ความชอบ ทัศนคติ บุคลิกภาพ เป็นต้น ข้อดี คือ ข้อมูลที่ได้มีความมั่นคง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ตัวธุรกิจที่ใช้การแบ่งตามหลักจิตวิทยา เช่น Nexflix ที่ใช้ไลฟ์สไตล์และความชอบของลูกค้า มาพัฒนา Algorithm และแนะนำภาพยนตร์แนวที่ลูกค้าน่าจะชอบ

4.แบ่งตามข้อมูลด้านพฤติกรรมลูกค้า (Behavioral)

แบ่งตามข้อมูลด้านพฤติกรรมลูกค้า เป็นการจำแนกกลุ่มลูกค้าตามนิสัย พฤติกรรมตอนการตัดสินใจใช้สินค้า หรือบริการต่าง ๆ สามารถเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ได้ง่าย และนำมาวางแผนการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าได้ดีขึ้น ตัวธุรกิจที่ใช้การแบ่งตามพฤติกรรมลูกค้า เช่น คลินิกเสริมความงาม ที่สังเกตพฤติกรรมลูกค้าว่าจะชอบดูรีวิวก่อนตัดสินใจจองคิว จึงต้องวางแผนการตลาดทางออนไลน์เป็นหลัก

เทคนิคแบ่งกลุ่มลูกค้า RFM Model

นอกจากนี้ยังมีเทคนิค RFM Segmentation (RFM Model) เป็นการทำ Customer Segmentation โดยแบ่งกลุ่มลูกค้าจากพฤติกรรมการซื้อ 3 ปัจจัย ได้แก่

• Recency: ข้อมูลของลูกค้าที่มาซื้อสินค้าหรือบริการครั้งล่าสุด
• Frequency: ความถี่ของลูกค้าในการมาซื้อสินค้าหรือบริการ
• Monetary: ปริมาณการซื้อสินค้าหรือบริการ

กระบวนการทำ Customer Segmentation

หลังจากที่จัดกลุ่มลูกค้าแล้ว ก็เข้าสู่กระบวนการทำ Customer Segmentation ที่จะช่วยให้เรานำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และวางแผนทางการตลาดต่อไป

1. การเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection)

การเก็บรวบรวมข้อมูล คือ กระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ ประมวลผล เพื่อวางกลยุทธ์ทางการตลาด เช่น พฤติกรรมผู้ที่ชอบใช้แอปพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์ ว่าชอบใช้งานในช่วงเวลาไหน

2.การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis)

การวิเคราะห์ข้อมูล คือ การนำข้อมูลที่รวบรวมไว้มาวิเคราะห์ในเชิงลึก เพื่อวางแผนทางการตลาดที่เกิดประโยชน์กับธุรกิจ เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า การวิเคราะห์คู่แข่ง

ทำความรู้จัก Data Analytics ได้ที่ : Data Analytics ศาสตร์แห่งการวิเคราะห์ที่ทุกองค์กรต้องการ

3.การทำกลยุทธ์การตลาด (Marketing strategy)

การทำกลยุทธ์การตลาด คือ การเลือกวิธีที่จะใช้ในการทำการตลาด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่องค์กรตั้งไว้ เช่น การทำแคมเปญบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เป็นต้น

ข้อดีของการทำ Customer Segmentation

อย่างที่เราทราบกันดีว่าข้อดีของการทำ Customer Segmentation คือ ทำให้รู้จักลูกค้ามากขึ้น

• ช่วยให้รู้จักลูกค้ามากขึ้น เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า
• เพิ่มประสิทธิภาพในการวางกลยุทธ์ วางแคมเปญทางการตลาด
• ช่วยเห็นโอกาสใหม่ ๆ เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่
• พัฒนาสินค้าหรือบริการให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น
• สร้างความจงรักภักดีในแบรนด์ (Brand Loyalty)

สรุป

โดยสรุปแล้ว Customer Segmentation คือ อีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณได้เจอกับลูกค้าตัวจริง หรือเจอกลุ่มลูกค้าใหม่ที่อาจจะมาเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต ช่วยให้คุณวางแผนแคมเปญทางการตลาดที่นำหน้าคู่แข่งและเพิ่มยอดขายได้

ซึ่งธุรกิจระดับโลกที่เราคุ้นเคยและใช้ Customer Segmentation ในการทำแคมเปญนั่นคือ Shopee ที่จัดแคมเปญลดราคา โดยแจกโค้ดส่วนลดในเวลาเที่ยงคืน เที่ยงวัน และหกโมงเย็น โดยศึกษาจากพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของลูกค้านั่นเอง

หากธุรกิจของคุณมีข้อมูลเยอะแต่ไม่รู้จะจัด Segment อย่างไร? ปรึกษา Data Wow ได้ที่ sales@datawow.io หรือโทร 02-024-5560 เราเชี่ยวชาญด้านการแบ่ง Segment ตามพฤติกรรมลูกค้า และนำ AI เข้ามาช่วยในการทำ Personalized Recommendation, Sales Forecasting, Demand Forecasting, Inventory Management, Lead Scoring, Forecast และอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยประหยัดเวลาในการหาข้อมูล เพราะมี AI ช่วยวิเคราะห์ ทำให้คุณสามารถวางแผนแคมเปญได้อย่างมืออาชีพ